วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ประวัติส่วตัว

ประวัติส่วตัว

นางสาวนิศารัตน์ ชนะพันธ์
เลขที่10 ม.5/1 อายุ17ปี




นางสาวปวีณา ขาวปาน
 เลขที่42 ห้อง5/1อายุ17ปี

จัดทำเสนอ
อาจารย์ สุวิทย์  ดาวังปา

ประวัติความเป็นมา (Chronology T.V.A)



ประวัติความเป็นมา (Chronology T.V.A)


สมาคมวอลเลย์บอลฯ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี 2502 ในชื่อสมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย โดยมี พลโทสุรจิต จารุเศรณี เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก ต่อด้วย นายบุญชิต เกตุรายนาค เป็นนายกสมาคมฯ คนที่ 2 จนถึงคนที่ 3 พันเอกอนุ รมยานนท์ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 10 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2520 เป็นต้นมา กีฬาวอลเลย์บอลในเมืองไทย ก็ก้าวสู่ความตกต่ำอย่างน่าใจหาย จนถูกสหพันธ์วอลเลย์บอล นานาชาติ ขับออกจากการเป็นสมาชิกสหพันธ์ เนื่องจากไม่ได้จ่ายค่าบำรุง ติดต่อกันมาถึง 8 ปี ถือว่าเป็นยุคที่มืดมนที่สุด แทบจะไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ปี 2528 คณะกรรมการบริหารสมาคมวอลเลย์บอลฯ ภายใต้แกนนำของ คุณกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม, คุณเกรียงไกร นพสงค์ และคุณปัญจะ จิตรโสภี ได้มีแนวคิดที่จะเชิญ คุณพิศาล มูลศาสตรสาทร ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เป็นคนที่ 4 ทำให้ สมาคมวอลเลย์บอลฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง ด้านการบริหารงานในยุคเก่าออก และปรับเปลี่ยนระบบ การบริหารงานให้มีการพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 10, 11 และ 12 นักกีฬาทีมชายและทีมหญิงไทย ไม่สามารถนำเหรียญใดเหรียญหนึ่ง กับมายังประเทศไทยได้ แต่ด้วยความพยายาม ในการปรับปรุงทีมนักกีฬาวอลเลย์บอลไทย โดยการส่งนักกีฬาทั้งทีมชาย และทีมหญิง ไปทำการฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีน รวมทั้งการขอโค้ชจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาฝึกสอนนักกีฬาไทย ในที่สุด วงการวอลเลย์บอลไทย ก็พบกับความสำเร็จ ในการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ทีมชายได้เหรียญทอง และทีมหญิงได้เหรียญเงิน นอกจากนี้ วงการวอลเลย์บอลไทย ยังขยายรากฐาน เพื่อสร้างตัวผู้เล่นในระดับเยาวชน ด้วยการเริ่มต้น การแข่งขันวอลเลย์บอล “พาวเวอร์ ทัวร์นาเมนต์” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ที่จัดขึ้นครั้งแรก ในปี 2528 โดยได้รับการสนับสนุน จาก บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด ในปี 2531 เริ่มต้นจัดการแข่งขันวอลเลย์บอล “ยุวชนเครือซิเมนต์ไทย” รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ภายใต้การสนับสนุนจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และการแข่งขัน “ยุวชนเป๊ปซี่” รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชิงถ้วย ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทเสริมสุขจำกัด (มหาชน) นับเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญ ที่ปรากฎผลให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยการจัดการแข่งขันครบทุกระดับอายุตั้งแต่ 14 ปี, 16 ปี และ 18 ปี ทำให้นักกีฬาไทย ทั้งทีมชาย และทีมหญิง สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จ 

วิธีการเล่น



วิธีการเล่น

          -  ทีมที่ได้เสิร์ฟ จะต้องให้ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งขวาหลัง เป็นผู้เสิร์ฟเพื่อเปิดเกม จากนั้นผู้เล่นทุกตำแหน่งจะขยับตำแหน่งวนไปตามเข็มนาฬิกา

          -  การเสิร์ฟจะต้องรอฟังสัญญาณนกหวีดก่อน และให้เริ่มเสิร์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที

          -  ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นผู้ได้เสิร์ฟ จนกว่าจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามจึงจะเปลี่ยนเสิร์ฟ

          -  เมื่อลูกเข้ามาในเขตแดนของทีม จะสามารถเล่นบอลได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่านั้น

          -  สามารถบล็อคลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามที่หน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามจะถือว่าฟาวล์

          -  สามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อ 1 เซต ให้เวลาครั้งละ 30 วินาที

          -  ทุกครั้งที่แข่งขันจบ 1 เซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง

การคืดคะเเนน

-  ทีมจะได้คะแนนเมื่อลูกบอลตกลงในเขตสนามของฝ่ายตรงข้าม โดยนับเป็นลูกละ 1 คะแนน และหากมีการเสียคะแนน จะต้องเปลี่ยนให้ทีมที่ได้คะแนนเป็นผู้เสิร์ฟ

          -  หากทีมไหนได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่หากคะแนนเสมอกันที่ 24-24 จะต้องมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทำคะแนนให้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน ถึงจะเป็นผู้ชนะ เช่น 26-24 หรือ 27-25 เป็นต้น

          -  ต้องแข่งขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น

กติกาวอลเลย์บอล


สนามแข่งขัน

          -  จะต้องเป็นพื้นไม้หรือพื้นปูนที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง

          -   เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร ยาว 12 เมตร ความสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร มีบริเวณโดยรอบห่างจากสนามประมาณ 3 เมตร

          -  แต่หากเป็นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กำหนดให้รอบสนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และมีความสูง 12.5 เมตร

          -  เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน

          -  เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี

ตาข่าย

          -  จะต้องมีความสูงจากพื้น 2.43 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 9.5 - 10 เมตร

          -  ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผู้ติดไว้กับเสากลางสนาม

          -  ตาข่ายสำหรับทีมหญิงสูง 2.24 เมตร
ลูกวอลเลย์บอล

          -  เป็นทรงกลมมีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้ำหนัก 260-280 กรัม

          -  ทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้

          -  ซึ่งในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออกนอกสนาม

ผู้เล่น

          -  ในทีมจะต้องมีผู้เล่นไม่เกิน 12 คน ผู้ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน

          -  ผู้เล่นจะลงเล่นในสนามได้ครั้งละ 6 คน โดยแบ่งออกเป็นหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน

          -  สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งละกี่คนก็ได้ โดยผู้เล่นเดิมที่ถูกเปลี่ยนออก สามารถเปลี่ยนกลับมาเล่นในสนามได้อีก

          -  การแต่งกายในชุดแข่งขัน ต้องแต่งกายเหมือนกันทั้งทีม ประกอบไปด้วย เสื้อสวมคอ กางเกงขาสั้น ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบพื้นยางที่ไม่มีส้น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องติดหมายเลขกำกับไว้ที่เสื้อ กำหนดให้ใช้เลข 1-18 เท่านั้น สำหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8x2 เซนติเมตร ติดอยู่ใต้หมายเลขบริเวณอกเสื้อด้วย

ประวัติวอลเลย์บอล


ประวัติวอลเลย์บอล

          กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) นั้น ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการมีกีฬาสำหรับเล่นในช่วงฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพื่อออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก

          โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน เกิดไอเดียในการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลขึ้น ขณะที่เขากำลังนั่งดูเทนนิส และเลือกนำเอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิส มาเป็นส่วนประกอบในกีฬาที่เขาคิดค้น และเลือกใช้ยางในของลูกบาสเก็ตบอล มาเป็นลูกบอลที่ใช้ตีโต้ตอบกันไปมา แต่ยางในของลูกบาสเก็ตบอลกลับให้น้ำหนักเบาจนเกินไป จึงเปลี่ยนไปใช้ลูกบาสเก็ตบอลแทน ซึ่งลูกบาสเก็ตบอลก็มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากจนเกินไปอีก เขาจึงสั่งทำลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในขนาดเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว และกำหนดน้ำหนักไว้ที่ 8-12 ออนซ์ จากนั้นจึงตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ว่า มินโทเนตต์ (Mintonette)

          ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล (Volleyball) หลังได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ในงานประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) เมื่อปี ค.ศ.1896 (พ.ศ.2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน จนแพร่หลายออกไปทั่วโลก รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เป็นระยะ